ย้อนกลับไปเมื่อปี 2557 ดิฉันได้มีส่วนร่วมในการเปิดตัว YouTube ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ สำหรับปีนี้นับเป็นปีที่ 8 ของ YouTube ในประเทศไทย ดิฉันยังคงรู้สึกประทับใจกับความผูกพันระหว่างคนไทยกับแพลตฟอร์มนี้ รวมไปถึงระบบนิเวศของคอนเทนต์และครีเอเตอร์ที่หลากหลาย
ผลการสำรวจล่าสุดพบว่า YouTube คือแพลตฟอร์มอันดับ 1 ที่คนไทยจะคิดถึงมากที่สุดหากไม่มีให้ใช้งานอีกต่อไป1 โดยเหตุผลหนึ่งเป็นเพราะ YouTube มีคอนเทนต์ที่สอดคล้องกับทุกช่วงเวลาในชีวิตและความสนใจที่เปลี่ยนแปลงของผู้คน โดยผู้ชมชาวไทยยกให้ YouTube เป็นแพลตฟอร์มอันดับ 1 ที่มีคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ของพวกเขา2 ความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งระหว่างคนดู คอนเทนต์และครีเอเตอร์ ทำให้คนไทยกลายเป็นกลุ่มผู้ชมที่เหนียวแน่น นอกจากนี้ยังทำให้เกิดเทรนด์ที่น่าสนใจอย่างการรับชม YouTube บนหน้าจอทีวี รวมถึงความหลากหลายของความสั้นยาวของคอนเทนต์ และการที่ YouTube กลายเป็นจุดหมายของการเลือกซื้อสินค้า
การรับชม YouTube บนหน้าจอทีวี
พฤติกรรมการรับชมวิดีโอออนไลน์ของคนไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้มีการเปลี่ยนแปลงไป พวกเขาสตรีมคอนเทนต์บนหน้าจอทีวีกันมากขึ้น เพราะทีวีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ (Connected TV) ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยในเดือนพฤษภาคม 2565 มีผู้คนที่สตรีม YouTube บนจอทีวีกว่า 12 ล้านรายในประเทศไทย3 การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้คำนิยามของทีวีสำหรับคนไทยนั้นเปลี่ยนตามไปด้วย 75% ของผู้ชมชาวไทยมองว่า YouTube คือ “ทีวี” เมื่อได้ดูบนหน้าจอทีวี4
ความหลากหลายของรูปแบบของคอนเทนต์
เรายังคงเดินหน้าสร้าง YouTube ให้เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ และมีความหลากหลายในรูปแบบของคอนเทนต์(multi-format) อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ใช้ทุกคนเติบโตไปพร้อมกับแพลตฟอร์ม ด้วยเนื้อหา วิธีและอุปกรณ์ในการรับชมที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น นอกจากการรับชม YouTube บนหน้าจอทีวีแล้ว ยังพบว่าผู้คนรับชมวิดีโอแบบสลับไปมาระหว่างคอนเทนต์ที่มีความยาวที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น แฟนเพลงอาจดูการแสดงคอนเสิร์ตสดแบบไลฟ์สตรีมบน YouTube และเลือกดูเบื้องหลังการถ่ายทำ และไฮไลท์ของมิวสิกวิดีโอผ่านทางคอนเทนต์สั้นๆ อย่าง YouTube Shorts เมื่อพวกเขาต้องการดูมิวสิกวิดีโอแบบเต็ม คอนเสิร์ตย้อนหลัง หรือเพลงทั้งอัลบั้ม พวกเขาก็จะเจาะลึกลงไปในวิดีโอออนดีมานด์แบบยาว
จุดหมายของการเลือกซื้อสินค้า
การเติบโตของอีคอมเมิร์ซบวกกับความนิยมในการรับชมวิดีโอออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้เส้นทางการเลือกซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน YouTube กลายเป็นจุดหมายในการค้นหาข้อมูลเลือกซื้อสินค้า ไม่ว่าเป็นการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการดูครีเอเตอร์ที่พวกเขาชื่นชอบแกะกล่องรีวิวสินค้าต่างๆ โดยกว่า 9 ใน 10 ของผู้ชมชาวไทยยอมรับว่าใช้ YouTube ในการช็อปปิ้งและเลือกดูสินค้า5 ซึ่งตอนนี้ก็มีวิธีใหม่ๆ ที่ทำให้โฆษณาบน YouTube กลายเป็นหน้าร้านออนไลน์ได้
YouTube กลายเป็นจุดหมายในการค้นหาข้อมูลเลือกซื้อสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการดูครีเอเตอร์แกะกล่องรีวิวสินค้า
เทรนด์ต่างๆ เหล่านี้นับเป็นโอกาสที่ดีให้แบรนด์เข้าถึงผู้ชมในทุกช่วงเวลา ทุกความสนใจ และบนทุกอุปกรณ์ โปรดรอติดตาม YouTube Brandcast ประจำปีที่จะจัดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะมีการนำเสนอข้อมูลอัปเดตเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำการตลาดบน YouTube อย่างเต็มประสิทธิภาพ