นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 การซื้อขายสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของคนไทย นอกจากนี้ จากการสำรวจล่าสุด พบว่าคนไทยค้นพบสินค้าหรือแบรนด์ใหม่ๆ ผ่าน YouTube มากขึ้น เช่น 81% ของคนไทยมองว่า YouTube ทำให้รู้จักแบรนด์ต่างๆมากขึ้น 70% มองว่า YouTube ทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะพิจารณาแบรนด์มากขึ้น และ 65% มองว่า YouTube ทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการจากแบรนด์มากขึ้น1
สิ่งสำคัญสำหรับแบรนด์คือ ต้องเข้าใจวิธีการทำการตลาดด้วยวิดีโอโฆษณา โดยสอดแทรกแบรนด์ในระหว่างที่ผู้ชมกำลังดูวิดีโอ กระตุ้นให้พวกเขาสนใจสินค้า และคลิกเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม หรือกดสั่งซื้อสินค้า ให้ตลอดทั้ง path to purchase ครบจบบน YouTube ณ ตอนนี้แบรนด์สามารถใช้ฟีเจอร์ Product Feeds แสดงแผงด้านล่างโฆษณาวิดีโออัตโนมัติ พร้อมปุ่ม call-to-action ได้แล้ว ซึ่งรองรับโฆษณาวิดีโอแบบ in-stream ไม่ว่าจะเป็น Bumper Non-Skippable หรือ Skippable ซึ่งในบทความนี้ เราได้รวบรวมมุมมองจากแบรนด์และพาร์ทเนอร์ชั้นนำของ Google ที่สร้างผลลัพธ์ผ่าน Product Feeds
Product Feeds ช่วยสร้างการรับรู้และการพิจารณา
Estee Lauder ประเทศไทย ได้นำฟีเจอร์ Product Feeds มาใช้ในโฆษณา TrueView In-Stream (Skippable เพื่อสร้างการพิจารณา) เพื่อเพิ่มการคลิกสินค้าที่อยู่บนโฆษณา กระตุ้นให้ผู้ชมที่มีโอกาสเป็นลูกค้าของแบรนด์ให้เข้าใกล้การซื้อได้มากขึ้น ผลของการใช้ Product Feeds ทำให้ click-through-rate เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า cost-per-click ต่ำลงกว่า 68% และทำให้การลงทุนโฆษณา (ROI) ของพวกเขาคุ้มค่ามากขึ้น เมื่อเทียบกับแคมเปญลักษณะเดียวกันที่ไม่ได้ใช้ Product Feeds
Product Feeds ทำให้แบรนด์ของเราเข้าไปใกล้ผู้บริโภคมากขึ้น เหมือนนำร้านค้าออนไลน์ไปไว้บนโฆษณาเดียวกัน
กนกรัตน์ หลวงพินิจ - Planning Manager, Carat ประเทศไทย เอเจนซี่ที่วางแผนสื่อให้ Estee Lauder มองว่า “การใช้โฆษณา Product Feeds เสริมเข้ากับแคมเปญโฆษณา in-stream แบบ Skippable พิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมได้จริง ทั้งจำนวนคลิกและ click-through-rate และยังช่วยลด cost-per-click ของแคมเปญด้วย นับว่าโซลูชันนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาของเราได้อย่างแท้จริง”
Product Feeds ช่วยสร้างการตัดสินใจซื้อ
ธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ในประเทศไทยอย่างเซ็นทรัล ใช้โฆษณา YouTube เพื่อสร้างการรับรู้มาเป็นเวลานาน และต้องการใช้ Video Action Campaigns (Skippable เพื่อสร้างการตัดสินใจซื้อ) ที่มี Product Feeds ในช่วงที่มีแคมเปญโปรโมชั่นเพื่อเพิ่มจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น รวมไปถึงกระตุ้นการเพิ่มสินค้าลงในรถเข็น (Add-to-Cart) เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจซื้อในที่สุด ผลลัพธ์คือ ปริมาณ Add-to-Cart สูงขึ้นกว่า 45 เท่า, ปริมาณ Conversion ทั้งหมดสูงขึ้นกว่า 52 เท่า และต้นทุนต่อ Conversion ต่ำลงกว่า 52 เท่า เมื่อเทียบกับแคมเปญลักษณะเดียวกันที่ไม่ได้ใช้ Product Feeds
อีกหนึ่งตัวอย่างคือ AIS ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ของไทย ที่ใช้ประโยชน์จาก Product Feeds บนโฆษณา TrueView for Action (Skippable เพื่อสร้างการตัดสินใจซื้อ) ทำให้ผู้ชมเห็นรูปภาพของผลิตภัณฑ์ กระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้มากขึ้น ผลที่ได้คือ เมื่อเทียบกับแคมเปญลักษณะเดียวกันที่ไม่ได้ใช้ Product Feeds อัตรา Conversion สูงขึ้นกว่า 7% อัตรา click through rate (CTR) สูงขึ้นกว่า 2.3 เท่า และต้นทุนต่อยอดขายต่ำลงกว่า 13%
จะเห็นว่าการเพิ่มฟีเจอร์ Product Feeds บนโฆษณาวิดีโอบน YouTube พิสูจน์ว่าช่วยเพิ่มผลลัพธ์ให้กับแบรนด์และยังช่วยปลดล็อกความต้องการของนักช็อป และในอนาคตอันใกล้ เราจะเปิดใช้ฟีเจอร์ Product Feeds บนโฆษณาภาพนิ่งบน YouTube อย่าง Discovery Ads ให้แบรนด์ได้มาทดลองกันอีกด้วย