วัฒนธรรมวิดีโอกำลังพัฒนาไปอย่างน่าสนใจและเร็วมากจนตอนนี้เรามีทั้ง Vlog ที่ไม่มีเสียงพูด (Silent Vlog) และวีทูบเบอร์ (VTuber) ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและสังคมแฟนด้อมที่เปลี่ยนไปได้กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ 2 ข้อ ซึ่งก็ส่งผลให้เกิดนิยามใหม่ของการมีส่วนร่วมกับวิดีโอ
ข้อแรก ผู้ชมในปัจจุบันรับชมวิดีโอ “ทุกรูปแบบ ทุกที่ทุกเวลา และบนทุกอุปกรณ์” ผู้ชมสามารถโต้ตอบกับครีเอเตอร์ที่พวกเขาชอบ สนุกกับคอนเทนต์ที่หลากหลาย รวมถึงเจาะลึกและเรียนรู้เรื่องที่พวกเขาสนใจและหลงใหลได้บน YouTube ซึ่งมีวิดีโอทุกรูปแบบ และสามารถรับชมได้ทุกที่ทุกเวลา บนทุกอุปกรณ์
ข้อที่สอง การสร้างวิดีโอคอนเทนต์กลายเป็นกิจกรรมที่ใครๆ ก็ทำได้ทางอุปกรณ์มือถือและไม่จำกัดรูปแบบ แฟนๆ ที่เคยได้แค่กดไลค์หรือกดติดตาม ตอนนี้พวกเขาสามารถสร้างคอนเทนต์ได้ง่ายๆ ด้วยโทรศัพท์มือถือและอัปโหลดเทรนด์วิดีโอฮิตๆ ในแบบของตัวเอง ซึ่งหมายความว่าโลกของครีเอเตอร์กำลังเติบโตขึ้นทุกวัน
การเปลี่ยนแปลงนี้เปิดโอกาสให้นักการตลาดได้เล่าเรื่องและเข้าถึงผู้ชมด้วยวิธีการแบบใหม่ๆ เพียงแค่ต้องมีกลยุทธ์และเครื่องมือที่ตอบโจทย์ โชคดีที่ความก้าวหน้าของ AI กำลังอยู่ในจุดที่เฟื่องฟู ทำให้คุณสามารถนำความคิดสร้างสรรค์และไอเดียมาใช้กับโซลูชันโฆษณาที่ทำงานด้วย AI บน YouTube ได้อย่างอัศจรรย์ และนี่ 3 วิธีในการนำ AI ของ Google มาใช้เพิ่มศักยภาพให้การตลาดวิดีโอ
เข้าถึงผู้ชมทุกที่ทุกเวลาด้วยวิดีโอทุกรูปแบบบนทุกอุปกรณ์
พฤติกรรมการรับชมของผู้คนอาจจะซับซ้อน แต่การเข้าถึงพวกเขาบน YouTube ไม่ได้ซับซ้อนเลยเพราะมี AI ของ Google คอยช่วยนำเสนอสิ่งที่ผู้คนชื่นชอบให้แล้ว ไม่ว่าจะแสดงคอนเทนต์ที่พวกเขาน่าจะชอบในฟีดบนหน้าแรก หรือแม้แต่ฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษ และ AI ยังเป็นตัวขับเคลื่อนโซลูชันโฆษณาที่ส่งเสริมธุรกิจของคุณด้วย
แคมเปญวิดีโอที่ทำงานด้วย AI ของ Google เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่ช่วยให้นักการตลาดสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายบน YouTube ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ AI เพื่อผสมผสานโฆษณาของคุณเป็นวิดีโอรูปแบบต่างๆ บน YouTube ซึ่งเหมาะกับการดูบนหน้าจอหลากหลายขนาด และกำหนดส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์ให้ตามอินพุตและวัตถุประสงค์ทางธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ นักการตลาดสามารถใช้ประโยชน์จากแคมเปญวิดีโอนี้ได้โดยเริ่มจากผลิตชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาที่เล่าเรื่องได้ไม่เหมือนใคร จากนั้นลองคิดถึงเป้าหมายทางการตลาดว่าคืออะไร การสร้างการรับรู้, การพิจารณา, การดำเนินการ หรือทั้งสามอย่าง
หากเป้าหมายของคุณคือการรับรู้ (Awareness) ให้เลือก Video Reach Campaign ซึ่งจะใช้ AI ของ Google ช่วยค้นหาผู้คนในกลุ่มเป้าหมายของคุณให้มากที่สุดในต้นทุนที่ต่ำที่สุด ช่วยให้คุณประหยัดเวลาและไม่ต้องคาดเดาเอง และยังสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่าให้กับแบรนด์ โดยงานวิจัยพบว่า Video Reach Campaign สามารถสร้างผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) โดยเฉลี่ยได้สูงกว่าแคมเปญที่เพิ่มประสิทธิภาพด้วยตนเองถึง 271% หรือ 3.7 เท่า
ค้นพบลูกค้าในเวลาและแพลตฟอร์มที่พวกเขามีส่วนร่วมมากที่สุด
ลูกค้าจะใช้เวลาศึกษาแบรนด์ของคุณหลังจากที่ค้นพบ โดย AI ของ Google จะช่วยเพิ่มผลลัพธ์ในช่วงของการพิจารณานี้ซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญกว่าและคาดเดาได้ยากกว่ามาก ด้วยความที่ผู้คนเรียนรู้เกี่ยวกับแบรนด์และดำเนินการในความเร็วและวิธีที่ต่างกัน การตัดสินใจซื้อจึงอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ งานวิจัยของ Kantar เมื่อไม่นานมานี้แสดงว่า 40% ของผู้บริโภคอยู่ในระยะของการพิจารณา1 และพวกเขาต้องใช้เวลาจนกว่าจะทำการซื้อ โดย 77% ของผู้ที่ตัดสินใจซื้อนั้นใช้เวลาสูงสุดถึง 6 เดือนก่อนตัดสินใจ2
การค้นหาจะยังคงเป็นพื้นฐานของกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพ แต่นักการตลาดจะต้องเข้าถึงผู้คนแบบใหม่เพื่อกระตุ้นการซื้อ ซึ่งนี่คือจุดที่วิดีโอจะเข้ามาเสริมทัพ จากการสำรวจโดย Talk Shoppe ผู้ชมกล่าวว่า YouTube คือแพลตฟอร์มอันดับ 1 ที่พวกเขาใช้หาข้อมูลผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ รวมถึงใช้ในการตัดสินใจซื้อ3 คุณจึงต้องให้ความสำคัญกับการค้นหากลุ่มเป้าหมายและสร้าง Brand Love หรือกระตุ้น Action บนแพลตฟอร์มนี้ โดยสามารถใช้วิธีการใหม่ๆ อย่าง Video View Campaign และ Demand Gen ที่ทำงานด้วย AI เพื่อแสดงโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพ และค้นหาลูกค้าและสร้าง Conversion ให้คุณเติบโตขึ้นไปอีกขั้น
เพิ่มประสิทธิภาพของครีเอทีฟโฆษณา
การได้เห็นเหล่าครีเอเตอร์และแฟนๆ ใช้วิดีโอรูปแบบใหม่ในหลากหลายวิธีและหยิบเทรนด์มาใช้ทำให้เกิดแรงบันดาลใจมากมาย กฎของการสร้างสรรค์วิดีโอเองก็มีการปรับเปลี่ยนเมื่อวัฒนธรรมและเทรนด์ต่างๆ ก้าวไปข้างหน้าเร็วขึ้น ซึ่งกฎของการสร้างสรรค์วิดีโอนี้มีความสำคัญสำหรับแบรนด์มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา
ครีเอทีฟโฆษณานับว่ามีส่วนในการกระตุ้น ROI มากที่สุด ไอเดียของนักการตลาดจึงเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างแคมเปญที่ประสบความสำเร็จ โดย AI จะช่วยให้ครีเอทีฟโฆษณาเกิดประโยชน์มากขึ้น เพื่อให้คุณได้ใช้เวลาคิดหาไอเดียและเรื่องราวแทน เช่น คุณอาจใช้เครื่องมือที่ทำงานด้วย AI ของ Google อย่างเครื่องมือตัดวิดีโอและ Universal Translator ที่มีเสียงบรรยาย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาที่คุณมีอยู่แล้ว
นอกจากนี้คุณยังสามารถค้นหาแรงบันดาลใจจากหลัก ABCD เพื่อครีเอทีฟโฆษณาที่มีประสิทธิภาพบน YouTube ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติแนะนำที่คัดมาจากการวิเคราะห์โฆษณานับพันรายการโดย AI เมื่อคุณได้ Big Idea แล้ว หลัก ABCD จะช่วยทำให้ไอเดียนั้นเกิดขึ้นจริงบน YouTube ด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพื่อให้คุณได้รับผลลัพธ์สูงสุด
ความก้าวหน้าของ AI เข้ามาเปลี่ยนแวดวงวิดีโอและช่วยให้นักการตลาดก้าวตามการเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมวิดีโอได้ทัน
จากเดิมวิดีโอเป็นสิ่งที่เราแค่รับชม ตอนนี้กลายเป็นสิ่งที่เรามีส่วนร่วมได้ ความก้าวหน้าของ AI เข้ามาเปลี่ยนแวดวงวิดีโอ และช่วยให้นักการตลาดก้าวตามการเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมวิดีโอได้ทัน AI ของ Google จะช่วยคุณต่อยอดไอเดียการสร้างสรรค์ออกไปได้ไกลขึ้น ใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และสร้างผลลัพธ์ได้มากขึ้น เพื่อให้คุณไม่ต้องเสียเวลากับรายละเอียดยิบย่อยของงานดิจิทัลและกลับไปทำงานการตลาดได้อย่างสบายใจ
