Kate Conroy มีประสบการณ์ในการช่วยแบรนด์และผู้ค้าปลีกชั้นนำสร้างการเติบโตกว่า 15 ปี และปัจจุบันเป็น Go-to-Market Lead for Retail Ads ประจำ Google เอเชียแปซิฟิก
การวิจัยผู้บริโภคเมื่อเร็วๆ นี้ชี้ให้เห็นถึง การเปลี่ยนแปลงด้านความภักดีของลูกค้า หรือ Loyalty Reset ซึ่งคือการที่นักช็อปในเอเชียแปซิฟิกไม่ยึดติดกับแบรนด์เดียวหรือช่องทางการขายเดียวเหมือนที่ผ่านมา แต่พร้อมที่จะเปลี่ยนไปหาแบรนด์หรือผู้ค้าปลีกอันดับสองในใจที่เข้าถึงพวกเขาขณะที่กำลังสำรวจหรือพิจารณาเพื่อตัดสินใจซื้อ1 และด้วยความที่นักช็อปเปิดใจมากขึ้น ทุกการตัดสินใจของพวกเขาจึงนับเป็นโอกาสที่คุณจะได้ทำการขาย ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือคุณต้องเข้าใจความต้องการของนักช็อป และตอบสนองต่อความต้องการนั้นให้ได้
สร้างความมั่นใจให้เหล่านักช็อป
ปัจจุบันผู้บริโภคต้องเผชิญกับความกดดันจากภาวะเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ทำให้ต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบมากขึ้นก่อนที่จะซื้อ โดยกว่า 70% ของนักช็อปต้องการใช้เวลาศึกษาหาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนเพื่อให้ตัดสินใจได้ถูกต้อง2 แบรนด์จึงต้องทำให้นักช็อปรู้สึกมั่นใจในสิ่งที่จะซื้อ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยปิดการขายเท่านั้น แต่ยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มรายได้และนำไปสู่การซื้อซ้ำ โดยผู้บริโภคกล่าวว่า พวกเขาใช้จ่ายกับแบรนด์ที่น่าเชื่อถือมากกว่าแบรนด์ที่ไม่น่าเชื่อถือถึง 25% โดยเฉลี่ย และผู้บริโภคที่มั่นใจในตัวเลือกสินค้าก่อนที่จะซื้อมีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อสินค้านั้นอีกเกือบ 20%3
มาดู 2 กลยุทธ์ในการเพิ่มความมั่นใจให้เหล่านักช็อป ด้วยความสามารถของ AI
1. แสดงตัวพร้อมสิ่งที่เพิ่มความเชื่อมั่นบนแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ
สิ่งที่ทำให้นักช็อปรู้สึกมั่นใจที่จะซื้อสินค้าจากแบรนด์หรือผู้ค้าปลีก ก็คือ การได้รับการยอมรับ เช่น ใบรับรองและรางวัลต่างๆ และชื่อเสียง ซึ่งได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญ4 หากคุณสามารถสื่อสารสิ่งที่เพิ่มความเชื่อมั่นเหล่านี้ได้ ก็มีโอกาสที่ผู้บริโภคจะเลือกแบรนด์ของคุณ นอกจากนี้การใช้แพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือในการแสดงโฆษณา ยังช่วยให้เกิด Trust Transfer หรือการถ่ายโอนความน่าเชื่อถือ โดยนักช็อปจะเชื่อมโยงความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มอย่างเช่น Google Search เข้ากับสิ่งที่เพิ่มความเชื่อมั่นและเกิดความรู้สึกในเชิงบวก ด้วยความที่ Google Search เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่น่าเชื่อถืออันดับ 1 และเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคในเอเชียแปซิกฟิกใช้ค้นหาข้อมูลเป็นอันดับแรก5
ในตอนนี้คุณสามารถใช้โซลูชันโฆษณาที่ทำงานด้วย AI บน Search และ YouTube เพื่อช่วยให้แบรนด์แสดงโฆษณาได้ตอบโจทย์ความต้องการพร้อมสื่อสารสิ่งที่เพิ่มความเชื่อมั่น ในเวลาที่เหมาะสม และในวงกว้างได้แล้ว ตัวอย่างเช่น Broad Match จะเชื่อมโยงสินค้ากับการค้นหาที่เกี่ยวข้องตามความตั้งใจของผู้ค้นหา ไม่ใช่เพียงจับคู่กับการค้นหาที่ตรงกับคีย์เวิร์ดแบบ Exact Match เท่านั้น
2. แสดงตัวต่อนักช็อปในทุกแพลตฟอร์ม
อีกวิธีที่จะเพิ่มความมั่นใจให้นักช็อปคือ การแสดงตัวอย่างสม่ำเสมอในช่องทางต่างๆ เพราะตอนนี้ผู้บริโภคล้วนช็อปปิ้งในหลายแพลตฟอร์ม ซึ่งเราพบว่า 76% ของนักช็อปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้ มากกว่า 5 ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการค้นหา วิดีโอ และโซเชียลมีเดีย เพื่อเลือกซื้อของในช่วง 2 วันของเทศกาลลดราคา6 โดยคุณสามารถเข้าถึงนักช็อปพร้อมทั้งเพิ่มความเชื่อมั่นให้พวกเขาได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยการใช้ Performance Max ร่วมกับ Search Campaign ซึ่งจะช่วยให้คุณค้นพบลูกค้าคนสำคัญในช่องทางทั้งหมดของ Google และสร้างแรงกระตุ้นอย่างเหมาะสมเพื่อให้เกิด Conversion เป็นทวีคูณ
การผสานรวมร้านค้าของคุณในช่องทางต่างๆ ให้ใช้งานสลับกันได้อย่างราบรื่นจะช่วยให้คุณสามารถแสดงตัวต่อนักช็อปอย่างสม่ำเสมอและสร้างความมั่นใจในการซื้อให้กับพวกเขาได้ ซึ่งโซลูชันโฆษณาแบบ Omnichannel ของ Google อย่าง Local Inventory Ad จะทำให้นักช็อปที่ทำการค้นหาบน Google รู้ว่าร้านค้าของคุณที่อยู่ใกล้เคียงมีสิ่งที่พวกเขากำลังมองหา และ Web to App Connect จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์การตลาดของแอปด้วยการมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ราบรื่นให้ผู้ใช้แอป
Loyalty Reset ก็เหมือนเหรียญสองด้าน แต่ถ้าเรารู้จักใช้สิ่งที่เพิ่มความเชื่อมั่น แพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ และโซลูชันการตลาดที่ทำงานด้วย AI แล้ว การเปลี่ยนแปลงนี้นับเป็นโอกาสดีที่เราจะได้สร้างยอดขายทุกครั้งที่ลูกค้าทำการตัดสินใจ จนนำมาสู่ผลกำไรและการเติบโตที่ยั่งยืน
มาเริ่มต้นสร้างความสำเร็จด้วย AI ตั้งแต่วันนี้ด้วย Google Ads AI Essential Checklist