แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซกลายเป็นแหล่งช็อปปิ้งยอดนิยมของผู้บริโภคจำนวนมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพราะมีทั้งคูปองส่วนลดและดีลสุดคุ้มกว่าที่ไหนๆ และยังมีสินค้าให้เลือกมากมายนับไม่ถ้วน
ในขณะเดียวกัน Retailer ก็ใช้อีคอมเมิร์ซเป็นช่องทางเพิ่มยอดขาย ใครที่มองการณ์ไกลก็จะพยายามคิดกลยุทธ์การตลาดที่ไม่ได้หยุดอยู่ที่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนั้น เพื่อต่อยอดความสำเร็จให้มากยิ่งขึ้น
จากการประเมินในรายงาน “อีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปี 2024” โดยบริษัทร่วมทุน Momentum Works ปัจจุบันการซื้อในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกิดขึ้นในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซถึง 82% และมูลค่าสินค้ารวม (GMV) ของตลาดอีคอมเมิร์ซ ในภูมิภาคนี้ยังมีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นจาก 1.59 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2024 เป็น 3.7 แสนล้านดอลลาร์ในปี 20301
สาเหตุที่อีคอมเมิร์ซดึงดูด Retailer ได้เป็นเพราะว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้มีเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยให้ธุรกิจขยายตัว เช่น โฆษณารูปแบบใหม่ โปรแกรมสะสมคะแนน และข้อมูลวิเคราะห์ประสิทธิภาพ เครื่องมือเหล่านี้ดึงดูดแม้กระทั่งแบรนด์ใหญ่ๆ ที่มีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ตลอดจนผู้ขายทางออฟไลน์ที่ต้องการสร้างการเติบโตให้ธุรกิจ
แต่ในทางกลับกัน ความนิยมของอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มขึ้นจนฉุดไม่อยู่นี้ก็ทำให้ Retailer สร้างความโดดเด่นให้กับตัวเองบนแพลตฟอร์มได้ยากขึ้น

อย่างไรก็ตามคุณสามารถวางกลยุทธ์ให้แบรนด์ประสบความสำเร็จได้ด้วยการปรับข้อมูลผลิตภัณฑ์ในอีคอมเมิร์ซให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้รูปภาพคุณภาพสูง คำอธิบายผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน การตั้งราคาในระดับเดียวกับท้องตลาด และให้ข้อมูลความพร้อมจำหน่ายที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้คุณสามารถนำข้อมูลที่ผู้ใช้ให้มาและอินไซต์จากอีคอมเมิร์ซมาใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพได้อีกด้วย
แต่การจะชนะใจลูกค้าได้อย่างแท้จริง Retailer ต้องมีกลยุทธ์การตลาดที่ครอบคลุมมากกว่าแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เพราะแม้การซื้อจะเกิดขึ้นในแพลตฟอร์มนั้นแต่เส้นทางการซื้อของลูกค้า (Customer Journey) นั้นผ่าน Touchpoint มากกว่า 5 แห่ง และ 65% ของนักช็อปยังใช้แพลตฟอร์มของ Google อย่าง Search และ YouTube ในการค้นหาและศึกษาข้อมูล2
ดังนั้น วิธีการสำคัญที่จะช่วยขยายการเข้าถึงและเพิ่มยอดขายในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซให้คุณได้นั้นจึงอยู่ที่การเข้าถึงลูกค้านอกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ที่พวกเขาใช้งาน
วิธีทำให้ลูกค้าที่สร้าง Conversion ไปยังร้านค้าของคุณในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
Performance Max สำหรับอีคอมเมิร์ซจะช่วยให้คุณค้นพบและเข้าถึง Potential Customer บนทุกช่องทางของ Google ซึ่งรวมถึง Search, YouTube และ Discover และพาพวกเขาตรงไปยังผลิตภัณฑ์ที่คุณขายในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซได้มากขึ้น
เพียงแค่มีบัญชี Google ที่ลิงก์กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนั้น คุณก็จะสามารถใช้ข้อมูลผลิตภัณฑ์จากแพลตฟอร์มนั้นๆ มาทำแคมเปญบนทุกช่องทางของ Google ซึ่งจะช่วยระบุการค้นหาที่มีความหมายต่อแบรนด์ของคุณและเพิ่ม Conversion จากลูกค้าที่คุณอาจพลาดไป

ด้วยความที่ Performance Max สำหรับอีคอมเมิร์ซทำงานด้วยระบบ AI ของ Google เครื่องมือนี้จึงจะตั้งค่าแคมเปญให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากโฆษณา ซึ่งรวมถึงปรับปรุงการเสนอราคา (Bidding), การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย (Audience Reach) และครีเอทีฟโฆษณา
ยิ่งไปกว่านั้น แคมเปญประเภทนี้ยังช่วยคุณติดตามประสิทธิภาพและผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) เพื่อให้คุณนำไปปรับกลยุทธ์การตลาด ซึ่งปัจจุบันมีผู้ขายจำนวนหลายพันรายที่มี ROAS เฉลี่ย 500% เมื่อใช้ Performance Max สำหรับอีคอมเมิร์ซ3
Performance Max สำหรับอีคอมเมิร์ซเปิดตัวครั้งแรกจากความร่วมมือกับแพลตฟอร์ม E-Commerce อย่าง Shopee โดยปัจจุบันนี้พร้อมใช้งานบน Lazada แล้วใน 6 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม
วิธีเพิ่มยอดขายด้วยแคมเปญที่อิงตามข้อมูล
นอกจากแบรนด์ที่สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์แล้ว Performance Max สำหรับอีคอมเมิร์ซซึ่งเป็นโซลูชันโฆษณาที่ทำงานด้วย AI ยังช่วย Retailer ที่ทำธุรกิจแบบออฟไลน์ให้กลายเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งในโลกอีคอมเมิร์ซ ได้เช่นกัน

หลังจากที่ใช้ Performance Max สำหรับอีคอมเมิร์ซ L'Oréal Dermatological Beauty หรือแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอางของลอรีอัลในประเทศไทยก็สามารถสร้างโฆษณาด้วย AI ซึ่งแสดงทั้งใน Search, Google Shopping และ YouTube เพื่อเข้าถึงลูกค้าและพาพวกเขาไปที่ร้านใน Shopee Mall ของ 3 แบรนด์ในเครือ ได้แก่ Cerave, La Roche-Posay และ Vichy
ผลลัพธ์ที่ได้คือยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 15% และลอรีอัล ประเทศไทยยังได้รับ $5 สำหรับทุก $1 ที่ใช้จ่ายใน Google Ads
คุณ Jureeporn Trisuchon ผู้จัดการฝ่ายดิจิทัลและสื่อของแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่ลอรีอัล ประเทศไทย กล่าวว่า “หลังจากที่ใช้ Performance Max สำหรับอีคอมเมิร์ซ เราก็ทึ่งกับผลลัพธ์ที่ได้ ROAS ของแต่ละแบรนด์เพิ่มขึ้น 5 เท่า ทำให้แบรนด์ของเรามีโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นและสร้างเส้นทางไปสู่การซื้อที่มีประสิทธิภาพจริงๆ”

Kindee Kids แบรนด์ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกสำหรับเด็กที่เคยทำธุรกิจแค่ทางออฟไลน์เริ่มเข้ามาสู่โลกออนไลน์โดยทำงานร่วมกับ Google และเอเจนซีการตลาด Saensuk Consulting ในการเปิดตัวร้านค้าใน Shopee
แบรนด์เริ่มจากคัดสินค้าขายดี 100 รายการและใช้ Performance Max สำหรับอีคอมเมิร์ซนำการเข้าชมมายังร้านค้าใน Shopee เมื่อแคมเปญ Performance Max สำหรับอีคอมเมิร์ซในขั้นแรกเพิ่มยอดขายและ ROAS ให้ผลกำไรแล้ว แบรนด์จึงขยายแคมเปญให้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ส่วนที่เหลือ
ความร่วมมือและการใช้โซลูชันโฆษณาที่ทำงานด้วยระบบ AI ทำให้ยอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้น 40 เท่า และความสามารถในการทำกำไร (Profitability) ก็เพิ่มขึ้น 2 เท่า
เมื่อความนิยมและมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซเพิ่มสูงขึ้น คุณจึงต้องพยายามหาวิธีที่จะทำให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นและพิชิตใจลูกค้าใหม่ ซึ่ง Performance Max สำหรับอีคอมเมิร์ซจะช่วยเข้าถึงลูกค้าใน Touchpoint ต่างๆ มากมาย รวมถึงในช่องทางทั้งหมดของ Google ที่พวกเขากำลังค้นหาและศึกษาข้อมูล รวมทั้งเพิ่มการเข้าชมและผลกำไรจากยอดขายให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ในที่สุด
Contributors: Minh Nguyen, Head of Commerce Ads, SEA และ Ganesh I, Performance Max Specialist, SEA
สมัครรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภค แรงบันดาลใจ และกลยุทธ์ต่างๆ ทางอีเมลจาก Think with Google