เรามักได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ไม่มีอะไรจะมาทดแทนการทำงานหนักได้” แต่จะดีกว่าไหมถ้าการทำงานหนักนี้สามารถสร้างผลลัพธ์ทางการตลาดที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วย
เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดได้ 20% แต่ความเชี่ยวชาญของมนุษย์สามารถต่อยอดตัวเลขนี้ขึ้นไปได้อีกถึง 15%
การศึกษาวิจัยของ Google ร่วมกับ Boston Consulting Group พบว่าเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาดได้ 20% แต่ความเชี่ยวชาญของมนุษย์สามารถต่อยอดตัวเลขนี้ขึ้นไปได้อีกถึง 15% ซึ่งตรงกับที่ Michael Beresin ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการจากเอเจนซีโฆษณา อย่าง Labelium เคยตั้งข้อสังเกตไว้ว่า การใช้ AI เพียงอย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้นักการตลาดสร้างผลลัพธ์ที่ต่างจากคนอื่น แต่การนำความรู้ความสามารถเฉพาะตัวมาใช้กับ AI ต่างหากที่จะทำให้นำหน้าคู่แข่ง
ดังนั้น แทนที่จะเอาแต่ Work Hard มาปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของคุณด้วย Google AI ผ่าน 3 วิธี ในบทความนี้
สร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจให้เร็วและง่ายยิ่งขึ้น
การสร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจให้กับลูกค้าเป็นหนึ่งในวิธีทำการตลาดขั้นพื้นฐาน และด้วยโซลูชันที่ทำงานด้วย Google AI คุณสามารถใช้ข้อมูล First Party ที่ได้รับความยินยอมได้อย่างเคารพความเป็นส่วนตัว เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถดึงดูดและสานสัมพันธ์กับพวกเขาเพื่อทำให้ธุรกิจของคุณเติบโต
เครื่องมืออย่าง Customer Match จะช่วยให้คุณมอบข้อเสนอที่ตอบโจทย์และดึงดูดลูกค้าใหม่ที่มีลักษณะคล้ายกับลูกค้าคนสำคัญ รวมทั้งรักษาลูกค้าเก่าให้เหนียวแน่น และ Performance Max จะช่วยให้คุณสามารถแสดงข้อความโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับลูกค้าในทุกๆ แพลตฟอร์มของ Google อย่าง Search, Shopping, YouTube, Display และ Gmail
ค้นหาลูกค้าคนสำคัญด้วยการคาดการณ์ที่แม่นยำ
สิ่งสำคัญลำดับต้นๆ ในการตลาดก็คือการดึงดูดลูกค้าที่จะสร้าง Coversion Value สูงสุดให้กับธุรกิจ เราจึงต้องคาดการณ์ให้ได้ว่าลูกค้าเหล่านั้นคือใคร และจะค้นหาพวกเขาให้เจอได้อย่างไร ซึ่ง การเสนอราคา Target ROAS สามารถช่วยในเรื่องนี้ได้ อย่างไรก็ดีโซลูชั่นที่ขับเคลื่อนด้วย AI นี้ ก็ยังต้องอาศัยนักการตลาดที่เชี่ยวชาญเป็นผู้กำหนด Conversion Value ที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับธุรกิจ เพื่อตั้งเป้าหมายให้ไปในทิศทางที่ถูกต้อง
นักการตลาดควรเลือกเป้าหมาย Conversion ที่แปลเป็นมูลค่าจริงได้ เช่น กำไร หรือ มูลค่าตลอดอายุการใช้งานของลูกค้า แทนเมตริกที่ไม่ชัดเจน วิธีนี้จะทำให้ Target ROAS สร้าง Conversion ที่จะสร้างกำไรและผลลัพธ์ทางธุรกิจได้มากที่สุด การเสนอราคา Bidding ด้วย AI นี้จะวิเคราะห์และคาดการณ์ Conversion Value ในแต่ละครั้งที่มีคนค้นหาสิ่งที่คุณโฆษณาหรือมีส่วนร่วมกับโฆษณาของคุณ จากนั้นจะปรับราคาเสนอโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น ซูเปอร์แอปชื่อดังอย่าง Traveloka ได้รับผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) เพิ่มขึ้น 11% และเพิ่มมูลค่าการจองเฉลี่ยได้ถึง 14% เมื่อเปลี่ยนกลยุทธ์การเสนอราคา Bidding จาก Target CPA มาเป็น Target ROAS
เพิ่ม Conversion ด้วยครีเอทีฟโฆษณาที่หลากหลาย
ครีเอทีฟโฆษณาที่ตอบโจทย์มีส่วนใน ROI เกือบ 50% โดย Performance Max จะใช้ระบบ AI สร้างครีเอทีฟโฆษณามากมายหลายแบบและแสดงรูปแบบที่สร้าง Conversion ได้ดีที่สุด และคุณยังจะได้ค้นพบอินไซต์ดีๆ สำหรับปรับปรุงครีเอทีฟโฆษณาในแคมเปญต่อไปอีกด้วย
Performance Max ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของคุณในการเลือกชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาให้มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะคำโฆษณาเด็ดๆ ภาพสวยสะดุดตา หรือวิดีโอที่ดึงดูดใจ จากนั้นระบบจะนำมาผสมผสานกันอย่างลงตัวเป็นโฆษณารูปแบบต่างๆ มากมายมหาศาลที่มัดใจผู้คนได้ในวงกว้าง
ถ้าปีนี้คุณตั้งใจว่าจะใช้วิธีการทำงานแบบ “Work Smart” ผลักดันผลลัพธ์ทางธุรกิจ แต่ยังไม่ได้เริ่ม Google AI คือรถ F1 ที่จะขับเคลื่อนศักยภาพด้านการตลาดของคุณไปข้างหน้าด้วยความเร็วติดสปีดจนถึงเส้นชัย อย่ารอช้า ได้เวลาออกสตาร์ท!