บทความนี้แบ่งเป็น 2 ตอน โดยตอนแรกนี้เราจะมาสำรวจเส้นทางการใช้ AI ของนักการตลาดในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงสถานการณ์การใช้งาน AI ในภูมิภาคนี้และวิธีที่นักการตลาดจะสามารถก้าวทันการเปลี่ยนแปลง
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเกิดกระแสของการนำ AI มาใช้งานอย่างเห็นได้ชัด และเกือบ 7 ใน 10 ของคนทำงานกล่าวว่าตนรู้สึกตื่นเต้นกับ AI ส่วนองค์กรในภูมิภาคนี้ก็วางแผนที่จะเพิ่มการลงทุนใน Generative AI เร็วกว่าภูมิภาคอื่นๆ
แต่นักการตลาดเปลี่ยนจากจุดที่แค่สนใจมาเป็นการใช้งาน AI จริงๆ ได้อย่างไร อะไรคือทัศนคติและแนวทางที่ทำให้พวกเขาก้าวหน้าในด้านนี้ และอะไรคืออุปสรรคที่รั้งนักการตลาดอีกส่วนหนึ่งไว้
เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์การใช้งาน AI ในเอเชียแปซิฟิกและกลยุทธ์ที่นักการตลาดสามารถนำไปต่อยอดการตลาดของตน Google และ Accenture ได้ทำการศึกษาวิจัยเพื่อสำรวจนักการตลาดในภูมิภาคนี้กว่า 300 ราย
การศึกษาของเราเผยให้เห็นอินไซต์ 3 ข้อ รวมถึงวิธีนำอินไซต์เหล่านี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์เพื่อให้คุณก้าวล้ำนำหน้าในด้าน AI
1. มีทั้งคน “กลัวตกกระแส” และมีทั้งคน “ไม่กล้าใช้”
แรงกระตุ้นสำคัญที่ส่งผลต่อการตอบสนองต่อการเปลี่ยนระบบไปใช้ AI ของนักการตลาดมีอยู่ 2 ประการ อย่างแรกคือกลัวตกกระแส และอย่างที่สองคือไม่กล้าเริ่มใช้งาน
การที่ AI ช่วยให้ ROI สูงขึ้นได้เป็นสิ่งจูงใจที่นักการตลาดจำนวนมากไม่อยากปล่อยให้หลุดมือ จากการที่เห็นว่าธุรกิจที่มีความพร้อมในการใช้งาน AI มากกว่ามีรายได้เพิ่มขึ้น 59%1 โดยนักการตลาดในเอเชียแปซิฟิก 85% กล่าวว่าตนกำลังวางแผนหรือออกแบบเส้นทางการนำ AI มาใช้งาน2
แต่ก็ยังมีคนที่ไม่กล้าใช้
ความเฉื่อยชานี้บางส่วนมาจากการที่นักการตลาดรู้สึกว่าตนยังมีความเข้าใจเกี่ยวกับ AI ไม่มากพอ
นอกจากนี้ปัจจัยอื่นๆ ที่รั้งพวกเขาไว้ยังมีความท้าทายในเชิงปฏิบัติที่นักการตลาดเผชิญเมื่อทำงานกับ AI ซึ่งในเอเชียแปซิฟิกนี้ ความท้าทายหลักๆ ที่ผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวถึงมีทั้งการขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น (55%) การไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้นำ (51%) และการไม่ได้เห็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ใน ROI (48%)3
ความท้าทายหลักที่นักการตลาดในเอเชียแปซิฟิกเผชิญเมื่อนำ AI มาใช้งาน:
สิ่งที่ควรทำ: ทำในสิ่งที่คนอื่นกลัว
เริ่มต้นที่ขั้นตอนพื้นฐานในการนำ AI มาใช้งานด้านการตลาด ได้แก่ การกำหนดเป้าหมายของการใช้ AI ให้ชัดเจน เพราะจะช่วยให้คุณจัดลำดับความสำคัญได้ว่าควรทำอะไรก่อน
เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้ AI ในการโฆษณา อย่าลืมศึกษาและนำข้อควรทราบเกี่ยวกับ AI มาใช้ต่อยอดแคมเปญโฆษณาของคุณเพื่อเพิ่มผลลัพธ์สูงสุด
เมื่อวางรากฐานเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ถึงเวลาของการทดลอง ไม่ว่าจะด้วยการทดสอบ เรียนรู้ ปรับขนาด และแชร์เรื่องราวการนำ AI มาใช้งานของคุณ สิ่งเหล่านี้จะช่วยปลูกฝังวัฒนธรรมของความใฝ่รู้และการเปิดใจรับ AI ภายในองค์กร
2. การใช้งาน AI: เพื่อประสิทธิภาพการทำงานในวันนี้ เพื่อการสร้างสรรค์ในวันหน้า
การสำรวจของเราพบว่านักการตลาดที่ใช้ AI มีการนำมาใช้เพิ่มประสิทธิผลต่างๆ แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นถึงศักยภาพของ Generative AI ในการตลาดแล้ว วิธีการใช้งานก็เริ่มเปลี่ยนไป
ปัจจุบัน 8 ใน 10 ของกรณีการใช้งาน AI ด้านการตลาดที่พบบ่อยจะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน4 การวิเคราะห์และการคาดการณ์เทรนด์ รวมไปถึงการศึกษาเกี่ยวกับคีย์เวิร์ด การใช้งานลักษณะนี้ต้องอาศัยความสามารถในการคาดการณ์และการวิเคราะห์ ซึ่ง AI ทำให้คุณได้ นักการตลาดจึงนำ AI มาช่วยในเรื่องเหล่านี้เพื่อเพิ่ม ROI ได้ไม่ยาก
แต่ขณะเดียวกันพวกเขาก็ตระหนักถึงพลังของ Generative AI กันมากขึ้นเรื่อยๆ จากความสามารถในการยกระดับการสร้างสรรค์และสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะผ่านการเล่าเรื่องด้วยภาพหรือการสร้างโฆษณาเวอร์ชันต่างๆ เพื่อให้ตรงกับความชอบของลูกค้าที่หลากหลาย โดยขณะนี้ 6 ใน 10 ของกรณีการใช้งาน AI ด้านการตลาดที่พบบ่อยซึ่งอยู่ในแผนงานของนักการตลาดในเอเชียแปซิฟิกจะเป็นเรื่องของการสร้างสรรค์คอนเทนต์และภาพต่างๆ5 และองค์กรที่เป็นผู้นำในการนำ AI มาใช้งานก็สามารถเพิ่มเอาต์พุตด้านครีเอทีฟโฆษณาของตนถึง 88%6
สิ่งที่ควรทำ: เปลี่ยนจากเน้นประสิทธิภาพการทำงานมาเป็นเน้นการสร้างสรรค์
เมื่อคุณมีความมั่นใจในการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้การตลาดแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่คุณจะสำรวจวิธีการใช้ AI เพื่อยกระดับการสร้างสรรค์ เริ่มต้นจากลองใช้ AI สร้างชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณารูปแบบต่างๆ จำนวนมาก หรือใช้พัฒนาครีเอทีฟโฆษณาที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มในทุก Touchpoint
ถ้าต้องการก้าวขึ้นไปอีกขั้น คุณสามารถใช้ AI วิเคราะห์ครีเอทีฟโฆษณาและประสิทธิภาพ เพื่อดูแบบเรียลไทม์ว่าอะไรที่ใช้ได้ผลกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม จากนั้นก็ปรับปรุงครีเอทีฟโฆษณาของแคมเปญและกลยุทธ์ทางการตลาดของคุณ
3. การมีพาร์ทเนอร์จะสร้างความมั่นใจให้นักการตลาด
การทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ AI ด้านการตลาดสามารถช่วยให้คุณนำ AI มาใช้งานได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะใครที่ยังไม่มีโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากรที่พร้อมสำหรับ AI
ธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก 85% มีการจ้างผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จากภายนอก7 ไม่ว่าจะบางส่วนหรือทั้งหมด ซึ่งทำให้พวกเขามีข้อได้เปรียบต่างๆ มากมาย รวมถึงประสิทธิภาพและความคล่องตัวที่มากกว่า
สาเหตุที่บริษัทในเอเชียแปซิฟิกเลือกทำงานกับพาร์ทเนอร์สำหรับการตลาดด้าน AI:
สิ่งที่ควรทำ: เลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะกับคุณซึ่งจะเข้ามาช่วยให้เส้นทางการใช้ AI ในการตลาดของคุณล้ำหน้ากว่าใคร
ก่อนอื่นคุณต้องประเมินความต้องการของคุณก่อนว่า คุณต้องการพาร์ทเนอร์ที่ให้บริการซอฟต์แวร์ (Saas) ในการจัดการชิ้นงานดิจิทัลและสร้างครีเอทีฟโฆษณาใช่ไหม เช่น ถ้าคุณต้องการสร้างชิ้นงานสำหรับแคมเปญ Search ให้ดีขึ้น คุณสามารถใช้ฟีเจอร์ที่ทำงานด้วยแชทอย่างประสบการณ์การสนทนาใน Google Ads เพื่อค้นหาคีย์เวิร์ด คำอธิบาย และรูปภาพที่มีประสิทธิภาพ
หรือคุณต้องการผู้เชี่ยวชาญที่สามารถสร้างโซลูชัน AI ให้บริษัท ถ้าคุณมองหาผู้ที่จะมาช่วยสร้างโครงสร้างพื้นฐานและโปรเจ็กต์ AI ที่ตรงกับวิสัยทัศน์และเป้าหมายของบริษัท ให้ลองพิจารณาพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญด้านการผสานรวมระบบ
การนำ AI มาใช้ในการตลาดจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพราะนักการตลาดมองเห็นถึงประโยชน์มากมายของ AI ตั้งแต่ด้านประสิทธิภาพการทำงาน การสร้างสรรค์ ไปจนถึงความคล่องตัวทางธุรกิจ และยังช่วยเพิ่มรายได้อีกด้วย คุณเองก็จะได้รับประโยชน์มหาศาลจาก AI เมื่อคุณกล้าที่จะเริ่มต้นในสิ่งที่คนอื่นกลัวหรือไม่พร้อม เรียนรู้การสร้างสรรค์ด้วย AI รวมถึงมองหาพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญ