ในปัจจุบัน การตลาดดิจิทัลเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ทำกัน แต่คำถามก็คือทำอย่างไรล่ะ เราค้นหาคำตอบโดยพูดคุยกับผู้บริหาร 300 คนทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อเรียนรู้จาก "ผู้นำตลาดดิจิทัล" (ผู้ที่ใช้การตลาดดิจิทัลอย่างคล่องแคล่วและได้ผลดี) และ "ผู้เรียนรู้ตลาดดิจิทัล" (ผู้ที่มีความสำเร็จในระดับต่ำ) นี่คือสิ่งสำคัญ 5 ข้อที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทำตลาดดิจิทัลให้ได้ผลตามต้องการ
1. เน้นการตลาดดิจิทัลเป็นหลัก
ผู้นำตลาดดิจิทัลที่เราพูดคุยด้วย 94% ต่างเห็นว่าตลาดดิจิทัลเป็นส่วนสำคัญที่สุดในแผนงานเชิงกลยุทธ์ ขณะที่ผู้เรียนรู้เพียง 18% ระบุว่าตนรวมการตลาดดิจิทัลไว้ในกลยุทธ์ธุรกิจโดยรวม ผู้นำ 55% กล่าวว่าการตลาดดิจิทัลเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำอย่างยิ่ง
ผู้นำตลาดดิจิทัลได้กำหนดเป้าหมายด้านดิจิทัลที่ชัดเจนและตั้ง KPI เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น โดยผู้นำ 92% ระบุว่าองค์กรของตนมีเป้าหมายด้านการตลาดดิจิทัลที่ชัดเจน แต่มีผู้เรียนรู้เพียง 69% ที่พูดเหมือนกัน
แม้กระทั่งบริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรแบบดั้งเดิมหยั่งรากลึก เช่น งานวิศวกรรมหรือการผลิต ก็ยังได้รับผลกระทบจากส่วนผสมทางการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน สำหรับธุรกิจเหล่านี้ การเปลี่ยนแปลงทั้งองค์กรไปสู่ตลาดดิจิทัลเป็นความท้าทาย แต่ผู้บริหารจำนวนมากเห็นว่าการวางตำแหน่งการตลาดดิจิทัลให้เป็นกลยุทธ์ระดับองค์กรในระยะเวลา 3-5 ปีข้างหน้าเป็นสิ่งที่สามารถจัดการได้
2. ทุ่มเททรัพยากรให้กับการตลาดดิจิทัล
ผู้นำตลาดดิจิทัลส่วนใหญ่ได้ปรับโครงสร้างองค์กรด้วยวิธีการบางอย่างเพื่อให้การตลาดดิจิทัลมีความสำคัญในระดับแถวหน้า ผู้นำจำนวนมาก (82%) เริ่มจากการสร้างทีมการตลาดดิจิทัลโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะภายในหรือภายนอกทีมการตลาดของตน ในตอนแรก ทีมนี้จะช่วยวางการทำงานในช่องทางดิจิทัล แต่ในระยะยาวทีมการตลาดดิจิทัลควรรวมเข้ากับทีมการตลาดอย่างเต็มตัว หากนักการตลาดทุกคนมีทักษะในช่องทางดิจิทัล และสามารถวางแผนและดำเนินงานการตลาดดิจิทัลให้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาดโดยรวมได้ ก็จะถือเป็นทีมในอุดมคติ
ผู้นำจะฝึกอบรมทีมการตลาดดิจิทัลให้เกาะติดกระแสล่าสุดและตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดอยู่เสมอ ผู้นำหลายคนบอกว่าได้จัดอบรมพนักงานในระดับประเทศหรือระดับโลก ทำให้ตนมั่นใจในความสามารถของทีมในการวางแผนและดำเนินงานกลยุทธ์ทางการตลาดดิจิทัลให้ประสบผลสำเร็จ
ความสามารถอีกอย่างหนึ่งที่ผู้นำเห็นว่ามีประโยชน์คือการสื่อสารในกลุ่มทีมดิจิทัลแบบข้ามหมวดสินค้าเพื่อแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ทำให้ทีมได้ประโยชน์จากการเรียนรู้ของกันและกัน
3. ค้นหาพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสม
ผู้นำ 93% กล่าวว่าตนทำงานร่วมกับเอเจนซีสื่อหรือเอเจนซีโฆษณาที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดดิจิทัลของตนมาโดยตลอด ข้อคิดสำคัญที่ได้รับ: คุณไม่จำเป็นต้องรับมือกับความท้าทายด้านการตลาดดิจิทัลทุกอย่างด้วยตนเอง
4. วัดผลและเพิ่มประสิทธิภาพ
ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเริ่มต้นจากการวัดผลที่ดีขึ้น ผู้นำ 62% กล่าวว่าตนใช้เครื่องมือวัดผลที่ "แม่นยำ" เพื่อติดตาม ROI ของแคมเปญทั้งหมด และยังวัดผลเพิ่มเติมโดยใช้เมตริกต่างๆ 7.3 รายการโดยเฉลี่ย ในขณะที่ผู้เรียนรู้ติดตามเพียง 2.3 รายการ การทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้ใช้โต้ตอบกับแบรนด์โดยวิเคราะห์โซเชียลหรือเว็บไซต์จะมีประโยชน์ เมื่อคุณสร้างแคมเปญหรือกลยุทธ์ครั้งถัดไป
คุณอาจหลงประเด็นได้หากมุ่งเน้นที่ตัวเลขค่าใช้จ่ายหรือการได้ลูกค้า แต่ขอให้จับตาดูที่ความสำเร็จแทน นั่นคือรายได้ที่เพิ่มขึ้น ผู้นำ 69% บอกเราว่าตนวัดรายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่มีผู้เรียนรู้การตลาดดิจิทัลเพียง 33% ที่กล่าวเหมือนกัน
5. สนับสนุนแนวทางใหม่ๆ
สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนความกล้าเสี่ยง ซึ่งรวมถึงการให้สิ่งจูงใจแก่ผู้ที่เป็นฮีโร่ด้านการตลาดดิจิทัล มีผู้นำที่เราสำรวจถึง 91% ที่กล่าวว่าองค์กรสนับสนุนให้กล้าเสี่ยงและลองใช้กลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ
การฝึกอบรมทักษะอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่ผู้นำยังให้รางวัลพนักงานที่กล้าเสี่ยงและค้นหาวิธีการใหม่ๆ ในการจัดการปัญหาด้านการตลาดดิจิทัลด้วย และที่สำคัญคือผู้นำ 78% ใช้ระบบสิ่งจูงใจ แต่มีผู้เรียนรู้เพียง 42% เท่านั้นที่ใช้ระบบนี้
ความสำเร็จด้านการตลาดดิจิทัลไม่ได้เกิดในชั่วข้ามคืน ก้าวแรกในการเปิดรับช่องทางดิจิทัลมักจะเป็นส่วนที่ยากที่สุดของกระบวนการ การนำข้อคิดจากผู้นำตลาดดิจิทัลเหล่านี้ไปใช้จะช่วยให้คุณผ่านก้าวแรกมาได้ และเตรียมความพร้อมให้คุณก้าวเดินบนเส้นทางสู่ความสำเร็จ
วิธีสำรวจ
การสำรวจนี้จัดทำขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน 2014 เราได้พูดคุยกับผู้บริหารระดับสูง 348 คนจากบริษัทต่างๆ ใน 4 ประเทศชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งได้แก่ จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ผู้บริหารเหล่านี้ประกอบด้วย CEO, CMO, CFO, ประธานและรองประธาน ผู้อำนวยการ และหัวหน้าฝ่าย เราสำรวจอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่การผลิตและบริการทางการเงินไปจนถึงบริการอาหารและสาธารณูปโภค แต่ละบริษัทมีพนักงานไม่ต่ำกว่า 100 คน และโดยส่วนใหญ่จะมีพนักงานตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป ผู้บริหารทั้งหมดเข้าใจกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัท และมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงหรือโดยอ้อมในการตัดสินใจทางการตลาด แต่ละคนได้ทำแบบสำรวจออนไลน์ที่มีคำถามเกี่ยวกับการใช้สื่อดิจิทัลและสื่อออนไลน์ขององค์กรในการตลาด การโฆษณา และการสื่อสารภายใน